เมื่อนั้น
โอรสนางปทุมเกสร
พระอภัยมณีศรีสุนทร
นั่งทอดถอนห่วงใยในบ้านเมือง
อันว่ากรุงรัตนามหาดิลก
เคยยอยกเกริกไกรในทุกเรื่อง
แต่วันนี้ตกต่ำระยำเนือง
ยากปลดเปลื้องอัปรีย์ที่รุมเร้า
ตั้งแต่เริ่มวาระคณะราษฎร์
ร่วมบังอาจระดมเข้าล้มเจ้า
เปลี่ยนแปลงการปกครองของเมืองเรา
พาพงศ์เผ่าย่อยยับอัปรา
พระทรงปี่ขึ้นประนมแล้วพรมนิ้ว
ร่ำบรรเลงเพลงพลิ้วรื่นชิวหา
เพลงปี่เร้าเจ้าของนองน้ำตา
รัตนาบุเรศสังเวชนัก
พระราชทานรัฐธรรมนูญ
เหมือนที่ทูลขอไว้ให้ประจักษ์
นักการเมืองสมหวังต่างตั้งพรรค
อำนาจยักย้ายแย่งมาแบ่งปัน
ธรรมนูญพูนธรรมแสนล้ำค่า
ผลัดกันแก้ผลัดกันพร่าน่าประหวั่น
ต่างมุ่งหวังตั้งหน้าฝ่าประจัน
เพื่อจัดสรรโอกาสอำนาจรัฐ
ทุนสามานย์เบ็ดเสร็จยึดเด็ดขาด
สภาทาสงานนิติบัญญัติ
บริหารยึดไว้ได้เคร่งครัด
ส่งวิบัติประวิงทุกสิ่งอัน
สภาเมืองถูกย่ำยีไม่มีค่า
ทรราชแข็งกล้าน่าประหวั่น
คนทำผิดปลิดปลงไม่ลงทัณฑ์
คอร์รัปชั่นนิรโทษโปรดอภัย
ผิดเป็นถูกถูกเป็นผิดวิปริตทั่ว
มุ่งเมามัวอำนวยช่วยนายใหญ่
เรื่องสุ่มเสี่ยงเสียงข้างมากพร้อมลากไป
เรื่องชั่วช้าสาไถยมิไยดี
เศรษฐกิจตกต่ำน้ำตาตก
ทำอุทกท่วมรุกไปทุกที่
กู้เงินมาใช้จ่ายในชาตินี้
เพื่อเป็นหนี้ชาติหน้ากว่าได้คืน
คนยากจนกำสรวลไปถ้วนทั่ว
ทุกครอบครัวระทมด้วยขมขื่น
ราชการงานประจำทนกล้ำกลืน
ต้องหยัดยืนด้วยยากลำบากนัก
ละม้ายเมืองพาราสาวัตถี
กฎุมพีพลไพร่ได้ยศศักดิ์
รัฐบาลกำหนดเล่นบทยักษ์
เข้าหาญหักมหาประชาชน
จนทวยราษฎร์ต้องร่วมกันรวมหัว
สะพรึงกลัวท่าทีจะปี้ป่น
เลือดจะนองแผ่นดินให้ยินยล
บนถนนประวัติศาสตร์ราชดำเนิน
มหาชนล้นหลั่งต่างพรั่งพรู
มากสุดกู่มั่นเหมาะเหมือนเหาะเหิร
กำลังรัฐรายล้อมพร้อมเผชิญ
จนยากเกินประมาณการย่อยยับ
โอ้สยามเทวาอธิราช
ขอเพลงปี่อภิวาทราชสดับ
พระอภัยนอบน้อมค้อมคำนับ
ขอจงรับสรรพสิ่งคำวิงวอน
ขอไทยพ้นทุกข์ท้อทรราช
ขออำนาจชาติไพร่จงไถ่ถอน
ทุนสามานย์สาหัสยิ่งดัสกร
จงบั่นทอนเลวร้ายสลายเทอญ
ขอบวงสรวงบรรเลงด้วยเพลงปี่
พระอภัยมณีพลีสรรเสริญ
พระสยามเทวัญขออัญเชิญ
ราชดำเนินร่วมเคารพนบสักการ